ไอพีดี (IPD) คืออะไร อันตรายหากไม่ป้องกัน
โรคไอพีดี (IPD) คืออะไร?
โรคไอพีดี (IPD) คือโรคติดเชื้อชนิดลุกลามที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส (Streptococcus pneumoniae) ซึ่งแพร่กระจายผ่านละอองน้ำลาย น้ำมูก และเสมหะ เชื้อนี้สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือปอดอักเสบรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งอาจทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้
ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงมักไม่แสดงอาการ แต่ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคร้ายแรง อาทิ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และการติดเชื้อในกระแสเลือด
อาการจากโรคไอพีดี (IPD)
อาการของการติดเชื้อนิวโมคอคคัสในแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่เกิดการติดเชื้อ อาทิ
- ปอดอักเสบ: มีอาการไอ มีไข้ หรือหายใจลำบาก
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ: มีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง และในเด็กอาจมีอาการงอแง ซึม ชัก ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
- การติดเชื้อในกระแสเลือด: มีไข้สูง หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว หรืออาจนำไปสู่ภาวะช็อกและเสียชีวิต
นอกจากนี้ เชื้อนิวโมคอคคัสยังอาจทำให้เกิดโรคอื่น ๆ เช่น โรคไซนัสอักเสบ หรือโรคหูชั้นกลางอักเสบ
การรักษาโรคไอพีดี (IPD)
การติดเชื้อนิวโมคอคคัสนั้น สามารถรักษาได้โดยการให้ยาปฏิชีวนะ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน พบว่ามีบางสายพันธุ์ของเชื้อนิวโมคอคคัสที่มีความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ ซึ่งส่งผลให้การรักษามีความซับซ้อนมากขึ้น และอาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคไอพีดี (IPD)
สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส การติดเชื้อมักไม่รุนแรง แต่กลุ่มเสี่ยงบางกลุ่มอาจเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงหรือลุกลามได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคไอพีดีสูงกว่าปกติ
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังได้แก่:
- เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
- เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการสูบบุหรี่มาก
- เด็กที่ไม่ได้รับนมแม่
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคไต หรือเบาหวาน
- ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 65 ปี
- ผู้ที่มีน้ำไขสันหลังรั่วจากความพิการแต่กำเนิด
- ผู้ที่เคยมีประวัติติดเชื้อในหูหรือมีอุปกรณ์ฝังหู (Cochlear Implant)
ดังนั้น กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันและรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย
นิวโมคอคคัสที่อาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรง
การป้องกันโรคไอพีดี (IPD)
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัดแน่นหนาโดยไม่จำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับเชื้อโรค
- ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงสายพันธุ์ที่ดื้อยา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมเสี่ยง
- รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และเลี้ยงทารกด้วยนมแม่ เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกาย
ฉีดวัคซีนไอพีดี (IPD) ป้องกันโรคปอดอักเสบสำหรับเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไป
ในฐานะผู้ปกครอง เราทุกคนต้องการให้ลูกน้อยของเรามีสุขภาพแข็งแรง ดังนั้น การฉีดวัคซีนไอพีดีจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อย
วัคซีนไอพีดีสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป โดยแนะนำให้ฉีดในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งอาจนำไปสู่อาการที่รุนแรงได้ การฉีดวัคซีนไอพีดีไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรค แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย
วัคซีนไอพีดี (IPD) สร้างภูมิคุ้มกันโรค
การสร้างภูมิคุ้มกันโรคไอพีดีในเด็กเล็กสามารถทำได้ดีที่สุดโดยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคนี้ 3 ชนิด ได้แก่:
- วัคซีนชนิด 10 สายพันธุ์ (PCV10): ป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส 10 สายพันธุ์ ได้แก่ 1, 4, 5, 6B, 7F, 9V, 14, 18C, 19F และ 23F
- วัคซีนชนิด 13 สายพันธุ์ (PCV13): ป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส 13 สายพันธุ์ ได้แก่ 1, 3, 4, 5, 6A, 6B, 7F, 9V, 14, 18C, 19A, 19F และ 23F โดยครอบคลุมเชื้อสายพันธุ์ 9V
วัคซีนชนิด 15 สายพันธุ์ (PCV15)
: ป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส 15 สายพันธุ์ ได้แก่ 1, 3, 4, 5, 6A, 6B, 7F, 9V, 14, 18C, 19A, 19F, 22F, 23F และ 33F
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง
แผนกกุมารเวช
สถานที่
ชั้น 1 โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน
เวลาทำการ
08:00 - 22:00 น.
เบอร์ติดต่อ
053-582-888