มะเร็งระบบทางเดินอาหารภัยเงียบ เสี่ยงชีวิต
 
                มะเร็งระบบทางเดินอาหารภัยเงียบ เสี่ยงชีวิต?
มะเร็งในระบบทางเดินอาหาร (gastrointestinal cancers) หมายถึง มะเร็งที่เกิดขึ้นในทางเดินอาหารตั้งแต่หลอดอาหารจนถึงทวารหนัก ได้แก่ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก รวมถึงมะเร็งที่เกิดในอวัยวะที่ช่วยในการย่อยอาหาร ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งตับอ่อน 
 
ประเภทของมะเร็งระบบทางเดินอาหาร
ประเภทของมะเร็งระบบทางเดินอาหารที่พบบ่อยที่สุดคือ:
- 
	มะเร็งหลอดอาหาร 
- 
	มะเร็งกระเพาะอาหาร 
- 
	มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก 
- 
	มะเร็งตับอ่อน 
- 
	มะเร็งตับ 
- 
	ประเภทอื่นๆ ที่พบได้น้อยมาก ได้แก่ เนื้องอกระบบประสาทเนื้อเยื่อ เนื้องอกสโตรมัลระบบทางเดินอาหาร และมะเร็งทวารหนัก 
หากท่านมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรรีบมาพบแพทย์
- 
	กลืนติด กลืนลำบาก กลืนแล้วเจ็บ 
- 
	เบื่ออาหาร อิ่มเร็ว รับประทานอาหารได้น้อยลง 
- 
	แน่นท้องเรื้อรัง อาเจียนเป็นอาหารเก่า อาเจียนเป็นเลือด 
- 
	ปวดท้องที่ไม่หายไปเอง ปวดถี่ขึ้น ปวดมากขึ้น 
- 
	ปวดท้องกลางคืนจนไม่สามารถนอนหลับได้ 
- 
	การขับถ่ายเปลี่ยนแปลง อุจจาระลำเล็กลง 
- 
	ถ่ายอุจจาระสีดำแดงหรืออุจจาระปนเลือด 
- 
	ตัวเหลืองตาเหลือง ท้องโต คลำพบก้อนในท้อง 
- 
	น้ำหนักลดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจลด อ่อนเพลีย มีภาวะโลหิตจาง 
ปัจจัยเสี่ยงและการป้องกัน
- 
	ปัจจัยเสี่ยง: โดยทั่วไปพบมะเร็งทางเดินอาหารได้บ่อยกว่าในเพศชาย และความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุ สาเหตุเกิดจากปัจจัยร่วมกันระหว่างพันธุกรรม พฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น ดื่มแอลกอฮอล์, อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ, การติดเชื้อ Helicobacter pylori, ไวรัสตับอักเสบ B หรือ C,และพันธุกรรม เป็นต้น 
- 
	การป้องกัน: การออกกำลังกายเป็นประจำ, อาหารไขมันต่ำที่มีผักและผลไม้สูง, ลดการบริโภคเนื้อแดงและแอลกอฮอล์, การตรวจคัดกรองลำไส้ใหญ่เป็นประจำ 

มะเร็งระบบทางเดินอาหารหากผู้ป่วยมีอาการและแพทย์สงสัยว่าอาจเป็น อาจทำการทดสอบต่อไปนี้:
- การส่องกล้องหรือการส่องกล้องตรวจหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น (EGD) เพื่อตรวจสอบเยื่อบุหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหาสิ่งผิดปกติ
- การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เพื่อตรวจหาพลิปในลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ซึ่งสามารถกลายเป็นมะเร็งได้
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาการเปลี่ยนแปลงในเลือดที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็ง
- การตรวจภาพ เช่น MRI, X-ray, ultrasound, CT scan หรือ PET scan ช่วยตรวจหาความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร
- การตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อผิดปกติและวิเคราะห์หาการปรากฏของเซลล์มะเร็ง ตัวอย่างเนื้อเยื่อมักจะเก็บในระหว่างการส่องกล้อง แพทย์พยาธิจะตรวจสอบเนื้อเยื่อใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อหาการปรากฏของเซลล์มะเร็ง
การรักษา
- การผ่าตัด: การกำจัดเนื้องอก
- การใช้เคมีบำบัดและการฉายรังสี
- การบำบัดแบบเป้าหมายและการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน
- สำหรับผู้ป่วยที่มีมะเร็งระยะสุดท้าย การรักษาจะมุ่งเน้นที่การบรรเทาอาการมากกว่าการรักษาโรค
มะเร็งระบบทางเดินอาหารจัดเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยและทำให้เสียชีวิตมากกว่ามะเร็งของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับ ดังนั้น ผู้ที่มีความเสี่ยงจึงควรเข้ารับการตรวจและประเมินปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยการตรวจคัดกรองอาจช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้หากมีการตรวจพบติ่งเนื้อก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง และสามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะแรก ๆ
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง


 
                      
 
                     
                     
                     
                     
                     
                     
                     
                    