Header

ทำไมการฝากครรภ์ถึงสำคัญ ?

blank แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

ทำไมการฝากครรภ์ถึงสำคัญ | โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

ทำไมการฝากครรภ์ถึงสำคัญสำหรับคุณแม่และลูกน้อย

“ฝากครรภ์” เป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องใส่ใจเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันและติดตามพัฒนาการของลูกในครรภ์ตลอด 9 เดือน คุณแม่มือใหม่อาจมีคำถามมากมาย เช่น ควรฝากครรภ์ที่ไหน ทำอย่างไรในครั้งแรก ควรเริ่มเมื่อไหร่ ต้องตรวจอะไรบ้าง และต้องเตรียมอะไรบ้าง คำถามเหล่านี้มีคำตอบให้เพื่อให้คุณแม่สามารถวางแผนและดูแลตัวเองกับลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม

ทำไมต้องฝากครรภ์?

การฝากครรภ์ช่วยให้เราสามารถติดตามสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น เช่น ครรภ์เป็นพิษ ภาวะดาวน์ซินโดรม ซิฟิลิส และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังเป็นการให้ความรู้และคำแนะนำในการดูแลสุขภาพตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงวันคลอด เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งคุณแม่และลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง

ประโยชน์ของการฝากครรภ์:

1. ป้องกันอันตรายและลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์
2. ส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของคุณแม่และทารกในครรภ์
3. ตรวจสอบการดำเนินของการตั้งครรภ์ให้เป็นไปอย่างปกติ 
4. ระบุวันกำหนดคลอดและตำแหน่งของลูกในครรภ์ได้อย่างชัดเจน

การฝากครรภ์: ต้องตรวจอะไรบ้าง?

ในระหว่างการตั้งครรภ์ คุณแม่จะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งคุณและทารกในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งประกอบด้วย:

  • ตรวจร่างกายทั่วไป: แพทย์จะประเมินประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณ รวมถึงประวัติทางพันธุกรรมในครอบครัวที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของลูกในครรภ์
  • ตรวจเลือด: เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ค้นหาภาวะเลือดจาง และตรวจหาโรคติดเชื้อต่างๆ เช่น ซิฟิลิส หัดเยอรมัน ไวรัสตับอักเสบ และเอชไอวี (HIV)
  • ตรวจอัลตร้าซาวด์: เพื่อประเมินความปกติของการตั้งครรภ์ และหาความผิดปกติ เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง
  • ตรวจปัสสาวะ: เพื่อค้นหาความผิดปกติ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เบาหวาน ภาวะขาดน้ำ และครรภ์เป็นพิษ


การฝากครรภ์ในแต่ละช่วง

ไตรมาสที่ 1 (เริ่มตั้งครรภ์ถึง 14 สัปดาห์):

  • ตรวจคัดกรองเชื้อแบคทีเรียจากกระเพาะปัสสาวะ
  • ตรวจเลือดเพื่อค้นหาโรคติดเชื้อและความผิดปกติทางพันธุกรรม
  • ตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยงดาวน์ซินโดรม
  • ตรวจอัลตร้าซาวด์เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์และอายุครรภ์

ไตรมาสที่ 2 (อายุครรภ์ 15-28 สัปดาห์):

  • ตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยงโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
  • เจาะน้ำคร่ำในกลุ่มเสี่ยงเพื่อตรวจหาโครโมโซมของลูกในครรภ์
  • ตรวจอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจสอบเพศของลูกและพัฒนาการการเจริญเติบโต

ไตรมาสที่ 3 (อายุครรภ์ 29-42 สัปดาห์):

  • ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนบาดทะยัก
  • ตรวจนับการดิ้นของลูกและฟังเสียงการเต้นของหัวใจ
  • วัดความสูงของยอดมดลูก
  • วางแผนการคลอด เช่น การคลอดธรรมชาติหรือการผ่าคลอด เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์

การฝากครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้ลูกในครรภ์มีสุขภาพดีและพัฒนาการที่แข็งแรง โดยผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะให้คำแนะนำในการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และกิจกรรมที่ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกในช่วงตั้งครรภ์
 

ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

คลินิกเฉพาะทางนอกเวลา | โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

คลินิกเฉพาะทางนอกเวลา

สถานที่

ชั้น 1 โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

เวลาทำการ

17.00 - 20.00 น.

เบอร์ติดต่อ

053-582-888

แผนกสูตินรีเวช | โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

แผนกสูตินรีเวช

สถานที่

ชั้น 1 โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

เวลาทำการ

08:00 - 17:00 น.

เบอร์ติดต่อ

053-582-888

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

blank แผนกอายุรกรรมทั่วไป โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

blank แผนกอายุรกรรมทั่วไป โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม