มะเร็งตับ ภัยเงียบที่ซ่อนเร้น
มะเร็งตับ ภัยเงียบที่ซ่อนเร้นในร่างกายที่คุณอาจไม่รู้ตัว
มะเร็งตับปฐมภูมิชนิด hepatocellular carcinoma (HCC) เป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 1 ในผู้ชายและอันดับ 3 ในผู้หญิง ปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือภาวะตับแข็ง โดยร้อยละ 80-90 ของ HCC จะมีภาวะตับแข็งร่วมจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี
สาเหตุหลักของ HCC มาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งอาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ตับ หรือผ่านการพัฒนาสู่ภาวะตับแข็ง สาเหตุรองลงมาคือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง ที่มีการเกิดพังผืดในตับมาก นอกจากนี้ ภาวะตับแข็งจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ หรือโรคตับอักเสบคั่งไขมันเรื้อรัง ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของ HCC เช่นกัน
แม้ว่าจะมีการตรวจคัดกรอง HCC ในกลุ่มผู้ป่วยโรคตับแข็ง แต่ก็ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ได้รับการวินิจฉัย HCC ในระยะกลางถึงระยะลุกลาม ดังนั้น การตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยง และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการคัดกรองและรักษา HCC ในระยะเริ่มต้น
ปัจจัยเสี่ยง
ความเสี่ยงของตับร้ายแรง ซึ่งเป็นมะเร็งตับชนิดพื้นฐานที่พบบ่อยที่สุด จะสูงขึ้นในผู้ที่เป็นโรคตับเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงสูงขึ้นหากตับเกิดแผลเป็นจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี ตับร้ายแรงยังพบบ่อยในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก และมีการสะสมของไขมันในตับ
การวินิจฉัย
การตรวจและวิธีการที่ใช้ในการวินิจฉัยตับร้ายแรง ประกอบด้วย:
- การตรวจเลือดเพื่อวัดการทำงานของตับ
- การตรวจภาพด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) และเอ็มอาร์ไอ (MRI)
- การตัดชิ้นเนื้อตับ ในบางกรณี เพื่อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การรักษา
ผู้ป่วยมะเร็งตับมีหลายทางเลือกในการรักษาที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักหลายอย่าง เช่น ความรุนแรงของโรค ขนาดและลักษณะของเซลล์มะเร็ง ระยะของโรคและการแพร่กระจาย รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย แพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละราย ซึ่งอาจรวมถึง:
- การผ่าตัด: การตัดก้อนมะเร็งออกบางส่วน หรือการปลูกถ่ายตับใหม่
- การทำลายเนื้อเยื่อมะเร็ง: ใช้ความร้อน, ความเย็น หรือแอลกอฮอล์
- การรักษาด้วยหัตถการทางรังสีวิทยา: การใส่ยาเคมีบำบัดหรือสารกัมมันตรังสี
- การฉายรังสีจากภายนอก: เทคนิคใหม่ที่มุ่งเป้าเฉพาะเจาะจงต่อเนื้อเยื่อมะเร็ง
- การรักษาด้วยยาแบบมุ่งเป้า: เช่น kinase inhibitor และ monoclonal antibodies
- การรักษาผ่านระบบภูมิคุ้มกัน: เช่น PD-1, PD-L1 และ CTLA-4 inhibitors
- การรักษาด้วยเคมีบำบัด: ใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน
นอกจากนี้ การป้องกันและคัดกรองมะเร็งตับเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจาก 90% ของมะเร็งตับเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ดังนั้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีควรได้รับการตรวจประเมินสุขภาพตับและคัดกรองมะเร็งตับอย่างสม่ำเสมอ ทุก 3-6 เดือน โดยการตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ (alpha-fetoprotein) และการตรวจอัลตร้าซาวด์ตับ
การเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพตับอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ เพื่อให้สามารถตรวจพบและรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่โรคจะลุกลามและยากต่อการรักษา
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง
แผนกกายภาพบำบัด
สถานที่
ชั้น 3
เวลาทำการ
ทุกวัน : 08.00-20.00
เบอร์ติดต่อ
(056) 000 111 ต่อ 511301 ,511302
แผนกทันตกรรม
สถานที่
ชั้น 4
เวลาทำการ
ทุกวัน : 09.00-17.00
เบอร์ติดต่อ
(056) 000 111 ต่อ 510701
ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม
สถานที่
อาคาร A ชั้น G
เวลาทำการ
จันทร์ - อาทิตย์ 08.00 - 20.00
เบอร์ติดต่อ
02 080 5999 ต่อ 4110