อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่พบบ่อยในเด็ก
อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่พบบ่อยในเด็ก
วัยเด็กเป็นช่วงเวลาแห่งการสำรวจและค้นพบ แต่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งอันตรายเช่นกัน ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งคราว ถึงแม้ว่าเราอยากจะให้ลูก ๆ ของเราเติบโตอย่างปลอดภัย จนกว่าพวกเขาจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แต่เราก็ไม่สามารถปกป้องพวกเขาจากทุกสิ่งได้ อย่างไรก็ตาม มีขั้นตอนทั่วไปที่พ่อแม่ สามารถทำได้เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บสาหัสในวัยเด็ก ซึ่งจากสถิติพบว่าโดยทั่วไปที่เด็กมักเกิดอาการบาดเจ็บดังนี้
1. การล้ม: สาเหตุการบาดเจ็บที่พบบ่อยที่สุดสำหรับเด็ก
การล้มเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บที่พบบ่อยที่สุดสำหรับเด็กทุกวัย ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยรุ่น เด็กเล็กอาจล้มจากเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์สนามเด็กเล่น หรือขณะหัดเดิน ในขณะที่เด็กโตอาจล้มขณะเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมทางกายอื่นๆ การล้มส่วนใหญ่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น ถลอก รอยฟกช้ำ หรือเคล็ด ซึ่งสามารถรักษาที่บ้านด้วยการปฐมพยาบาลได้
อย่างไรก็ตาม การตกจากที่สูงหรือบนพื้นแข็งอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสาหัส เช่น กระดูกหัก อาการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือการบาดเจ็บภายใน หากเด็กตกจากที่สูงหรือมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ เช่น หมดสติหรืออาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์ฉุกเฉินเฉพาะทางทันที
2. แผลไหม้: อุบัติเหตุทั่วไปในบ้าน
แผลไหม้เป็นอาการบาดเจ็บที่พบบ่อยในวัยเด็กและอาจเป็นผลจากแหล่งต่างๆ เช่น ของเหลวร้อน พื้นผิวที่ร้อน หรือเปลวไฟ เด็กเล็กมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลไหม้จากของเหลวร้อน เช่น กาแฟหรือซุป ในขณะที่เด็กโตอาจมีอาการไหม้จากการทำอาหารหรือเล่นไฟ
แผลไหม้ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและสามารถรักษาที่บ้านด้วยการปฐมพยาบาลได้ อย่างไรก็ตาม แผลไหม้ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของร่างกายหรือที่ใบหน้า มือ หรืออวัยวะเพศ จำเป็นต้องได้รับการดูแลฉุกเฉินเป็นพิเศษ
3. พิษ: การกลืนกินสารอันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจ
การเป็นพิษอาจเกิดขึ้นเมื่อเด็กรับประทานสารที่เป็นอันตรายเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น ยา น้ำยาทำความสะอาดในครัวเรือน หรือพืชมีพิษ สิ่งสำคัญคือต้องเก็บสารเหล่านี้ให้พ้นมือเด็กและเก็บไว้ในภาชนะที่ป้องกันเด็กได้ หากเด็กกลืนสารที่เป็นอันตรายเข้าไป ให้รีบไปพบแพทย์ฉุกเฉินเฉพาะทางทันที อาการของการเป็นพิษอาจรวมถึงการอาเจียน หายใจลำบาก หรือหมดสติ
4. การสำลัก: อาหารหรือวัตถุขนาดเล็กติดอยู่ในลำคอ
การสำลักอาจเกิดขึ้นเมื่อเด็กกินอาหารเร็วเกินไปหรือเอาของเล็กๆ เช่น ของเล่นหรือเหรียญเข้าปาก เด็กเล็กมีความเสี่ยงที่จะสำลักเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจยังไม่พัฒนาความสามารถในการเคี้ยวและกลืนอย่างเหมาะสม หากเด็กสำลักและหายใจไม่ออก ให้รีบไปพบแพทย์ฉุกเฉินเฉพาะทางทันที พ่อแม่และผู้ดูแลสามารถช่วยป้องกันการสำลักได้โดยการตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ และเฝ้าดูเด็กๆ ขณะรับประทานอาหาร
5. การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาอาจเกิดขึ้นเมื่อเด็กทำกิจกรรมทางกาย เช่น กีฬาหรือออกกำลังกาย การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาที่พบบ่อย ได้แก่ เคล็ด และกระดูกหัก อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ที่บ้านด้วยการปฐมพยาบาล แต่การบาดเจ็บร้ายแรง เช่น กระดูกหัก หรืออาการบาดเจ็บที่ศีรษะ จำเป็นต้องได้รับการดูแลฉุกเฉินเฉพาะทาง ผู้ปกครองสามารถป้องกันการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาได้โดยการดูแลให้เด็กๆ สวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม และโดยการสอนเทคนิคและรูปแบบที่เหมาะสม
อุบัติเหตุในวัยเด็กสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดบาดเจ็บที่ทำให้เด็กโดนทุกข์ทรมาน มีความพิการ หรือเสียชีวิตได้ การเฝ้าระวังและการป้องกันเป็นสิ่งสำคัญในการลดการเกิดอุบัติเหตุในเด็ก ผู้ปกครองควรต้องเตรียมพร้อมรับมือ แม้ว่าอาการบาดเจ็บในวัยเด็กส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ที่บ้าน แต่บางรายอาจต้องได้รับการดูแลฉุกเฉินเฉพาะทาง
ดังนั้น บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น ครอบครัว ชุมชน และบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะผู้ปกครองควรตระหนักถึงอันตรายต่างๆ และใช้ความระมัดระวังในการดูแลเด็กและปฏิบัติตาม บทบาทในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในเด็ก ก็จะสามารถ ทำให้การเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บในเด็กลดลงได้ แต่หากเด็กมีอาการจากอุบัติเหตุเพราะทุกอาการล้วนเป็นอันตรายต่อลูกน้อย อาจส่งผลระยะยาวต่อการใช้ชีวิต หรือบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตก็เป็นได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
.
โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน พร้อมดูเเลลูกน้อยของท่านทั้งกลางวันเเละกลางคืน โดยกุมารเเพทย์ที่เชี่ยวชาญและทีมแพทย์ฉุกเฉิน ให้บริการดูเเลเเละรักษา
อุบัติเหตุฉุกเฉิน โทร. 1669 หรือ 053 582 888 ต่อ 801 หรือ 088 257 3141
ที่มาจาก :
วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ปีที่ 24 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2559
(อุบัติเหตุในเด็ก: สถานการณ์ และแนวทางการป้องกัน Accidents in Children: Situation and Prevention)
UT southwestern medical center (https://utswmed.org/)
Your Kids Urgent Care (https://yourkidsurgentcare.com/)