Header

การปฐมพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉินเบื้องต้นในช่วง 7 วันอันตราย

นายแพทย์ทรงศักดิ์ พิทักษ์รัตนานุกูล นายแพทย์ทรงศักดิ์ พิทักษ์รัตนานุกูล

การปฐมพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉินเบื้องต้นในช่วง 7 วันอันตราย โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน

การปฐมพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉินเบื้องต้นในช่วง 7 วันอันตราย

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงที่ผู้คนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านหรือไปท่องเที่ยว และเป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด บทความนี้จะเน้นถึงความสำคัญของการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต

7 วันอันตรายครอบคลุมช่วงเวลาที่มีการเดินทางหนาแน่นในเทศกาลปีใหม่

วันที่ 29 ธันวาคม – เริ่มต้นการเดินทางของหลายคน

วันที่ 30 ธันวาคม – การเดินทางเข้าสู่จุดหมายปลายทาง

วันที่ 31 ธันวาคม – ช่วงเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า

วันที่ 1 มกราคม – วันขึ้นปีใหม่

วันที่ 2 มกราคม – เริ่มต้นการเดินทางกลับ

วันที่ 3 มกราคม – การเดินทางกลับส่วนใหญ่

วันที่ 4 มกราคม – วันสุดท้ายที่มีการเดินทางกลับหนาแน่น

สถิติที่น่ากังวลในช่วง 7 วันอันตราย

  • ช่วงปีใหม่มีสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนสูง เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ การขับรถเร็วเกินกำหนด และความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล
  • สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การไม่สวมเข็มขัดนิรภัย การขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อก และการฝ่าฝืนกฎจราจร
  • อัตราการเสียชีวิตมักสูงในพื้นที่ชนบทและถนนสายรอง ซึ่งมีการดูแลด้านความปลอดภัยน้อยกว่าถนนหลัก

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

1. ตั้งสติและประเมินสถานการณ์

  • หยุดรถในที่ปลอดภัยและเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนผู้ใช้ถนนคนอื่น
  • ตรวจสอบสภาพแวดล้อมว่าปลอดภัยสำหรับการเข้าไปช่วยเหลือหรือไม่ เช่น ระวังไฟไหม้หรือการรั่วไหลของเชื้อเพลิง

2. โทรแจ้งหน่วยฉุกเฉิน (1669)

  • ให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับตำแหน่งที่เกิดเหตุ จำนวนผู้บาดเจ็บ และลักษณะการบาดเจ็บ
  • รอฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

3. ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น

  • ห้ามเลือด: ใช้ผ้าสะอาดกดลงบนบาดแผลเพื่อหยุดเลือด
  • ช่วยให้หายใจสะดวก: หากผู้บาดเจ็บหมดสติ ให้จัดร่างกายให้อยู่ในท่าตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก
  • ดูแลกระดูกหัก: หากสงสัยว่ามีกระดูกหัก อย่าเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยไม่จำเป็น
  • ช่วยผู้หมดสติ: ตรวจสอบการหายใจและชีพจร หากไม่มีการตอบสนองให้ทำ CPR (การปั๊มหัวใจ)

4. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ

  • ยกเว้นในกรณีที่ผู้บาดเจ็บอยู่ในสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย เช่น ไฟไหม้หรือการจมน้ำ
  • ใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น กระดานรองหลัง หรืออุปกรณ์พยุงคอ หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย

เคล็ดลับการป้องกันอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตราย

วางแผนการเดินทางล่วงหน้า

  • เลือกเส้นทางที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงถนนที่มีการจราจรหนาแน่น
  • ตรวจสอบสภาพรถยนต์ เช่น ระบบเบรก ยาง และไฟส่องสว่าง
  • วางแผนเวลาเดินทางล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการขับขี่ในช่วงเวลากลางคืน

ปฏิบัติตามกฎจราจร

  • สวมเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งและทุกที่นั่งในรถ
  • ขับรถด้วยความเร็วตามที่กำหนด และระมัดระวังเมื่อขับผ่านจุดเสี่ยง
  • ใช้ไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟอย่างเหมาะสมเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่รายอื่น

พักผ่อนให้เพียงพอ

  • หากขับรถเป็นเวลานาน ควรหยุดพักทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพและลดความเหนื่อยล้า
  • หลีกเลี่ยงการขับขี่หลังดื่มแอลกอฮอล์หรือเมื่อร่างกายไม่พร้อม

ระวังพฤติกรรมเสี่ยง

  • หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
  • ไม่ขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอนหรือเหนื่อยล้า
  • ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ถนนคนอื่น และระมัดระวังเมื่อขับผ่านพื้นที่ที่มีเด็กหรือคนเดินถนน

การจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินในรถ

การมีอุปกรณ์ฉุกเฉินในรถจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสียหายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อุปกรณ์ที่ควรมี ได้แก่:

  • กล่องปฐมพยาบาล
  • ไฟฉายและถ่านสำรอง
  • สามเหลี่ยมสะท้อนแสงหรือกรวยเตือนภัย
  • สายพ่วงแบตเตอรี่
  • น้ำดื่มและของว่างที่เก็บได้นาน



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน

สถานที่

อาคาร A ชั้น 1

เวลาทำการ

24 ชม.

เบอร์ติดต่อ

045244999

แพทย์ประจำศูนย์

แผนกอายุรกรรมทั่วไป

นายแพทย์อัษนัย กิตติปัญญาวรคุณ

สาขา อายุรศาสตร์โรคไต

แผนกกุมารเวช

แพทย์หญิงชุติมณฑน์ เขื่อนคำ

สาขา กุมารเวชศาสตร์

คลินิกจักษุ

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์